เขื่อนเชี่ยวหลาน เขื่อนรัชชประภา ประวัติที่น่ารู้และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เขื่อนเชี่ยวหลาน แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างให้ฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” เพราะมีความสวยงามของหน้าผาหินปูนและภูเขาที่สูงชันเหนือน้ำสีเขียวใส รวมทั้งภาพไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำและภูเขาในยามเช้า ที่เหมือนกันกับกุ้ยหลินในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงในประเทศจีน
เขื่อนเชี่ยวหลานตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนที่ก่อสร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและพลังงานไฟฟ้า ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 โดยเป็น 1 ใน 2 เขื่อนอเนกประสงค์ที่สำคัญในภาคใต้ที่มีประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้หลังจากสร้างเสร็จแล้ว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้อย่างเป็นทางการว่าใหม่ว่า เขื่อนรัชชประภา (RAJJAPRABHA DAM) ซึ่งมีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”
เขื่อนรัชชประภา อ่างเก็บน้ำ โรงไฟฟ้าและลานไกไฟฟ้า
เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสงที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ในปี พ.ศ. 2531 โดยเริ่มดำเนินลงมือก่อสร้างวันที่ 9 ก.พ. 2525 ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2530 และในวันพุธที่ 30 ก.ย. 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดเขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
อ่างเก็บน้ำ
อ่างเก็บน้ำของที่นี่เป็นเขื่อนประเภทเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว ขนาดสันเขื่อนยาว 761 เมตร สูง 94 เมตร จุน้ำได้ 5,640 ล้านลูกบาศก์เมตร ขนาดพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ย 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี มีเขื่อนขนาดเล็กปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 6 แห่ง อยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ 5 แห่งและฝั่งซ้ายของแม่น้ำอีก 1 แห่ง
โรงไฟฟ้า
โรงไฟฟ้า เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าเครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง มีกำลังการผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง โรงไฟฟ้านี้ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำคลองแสงที่บริเวณสันเขื่อน
ลานไกไฟฟ้า
ลานไกไฟฟ้า ทำหน้าที่ส่งแรงดันไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าด้วยสายส่งไฟฟ้า ขนาด 230 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี ในระยะทาง 50 กิโลเมตร และขนาด 115 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงา ระยะทาง 82 กิโลเมตร ตั้งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าประมาณ 100 เมตร บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำคลองแสง ทั้งนี้ลานไกไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าอยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ประโยชน์ของการสร้างเขื่อนในด้านต่าง ๆ
- การผลิตไฟฟ้า พลังงานจากน้ำภายในเขื่อนสามารถนํามาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 315 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยเสริมให้ภาคใต้มีระบบไฟฟ้าที่มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วน้ำที่ปล่อยผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้า ยังสามารถใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรมบริเวณพื้นที่ท้ายน้ำอีกด้วย
- การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ในพื้นที่การเกษตรด้านล่างเขื่อน บริเวณสองฝั่งแม่น้ำพุมดวงในเขตอําเภอบ้านตาขุน อําเภอคีรีรัฐนิคมและอําเภอพุนพิน สามารถใช้ประโยชน์จากปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อน สำหรับการเพาะปลูกพืชในฤดูแล้งได้เป็นอย่างดี
- การแก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม ในฤดูแล้ง หากปริมาณน้ำในแม่น้ำตาปีและคลองพุมดวงมีน้อย จะทําให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสียได้ง่าย หรือหากบริเวณปากแม่น้ำตาปีมีน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามา น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนจะช่วยเจือจางน้ำเสียในลําน้ำ และต้านทานการรุกล้ำเข้ามาของน้ำเค็มที่ปากแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การบรรเทาอุทกภัย ในช่วงฤดูฝน ความสามารถการกักเก็บน้ำได้ในปริมาณมากของอ่างเก็บน้ำจะช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มตอนล่างของจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เป็นอย่างดี
- การประมง ในทุก ๆ ปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะทำการปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งเป็นจํานวนมากลงไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อน ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สําคัญสามารถให้ผลผลิตทางด้านการประมงเฉลี่ยถึงปีละ 300 ตัน เป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับราษฎรในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง
- การท่องเที่ยว ทัศนียภาพที่สวยงามโดยรวมของอ่างเก็บน้ำขนาดยักษ์แห่งนี้ ทั้งเทือกเขาและหน้าผาหินปูนสูงชันที่โผล่ขึ้นมาเหนือผืนน้ำ รวมทั้งหมอกขาว ๆ ที่ลอยละล่องอยู่เหนือผิวน้ำและทิวเขา สวยงามไม่แพ้กุ้ยหลินของประเทศจีน เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละนับแสนคน ทั้งการมาล่องเรือนำเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานไปเช้าเย็นกลับและการมาเที่ยวแบบนอนพักค้างคืนในแพที่พัก จากผู้ให้บริการแพที่พักหลาย ๆ ราย
สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในเขื่อน
- เขาสามเกลอ ภูเขาหินปูนยอดแหลมสูงชัน ที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำสีเขียวใสและโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาและหน้าผาขนาดใหญ่บริเวณอ่าวสมเด็จ นี่คือที่มาของฉายา “กุ้ยหลินเมืองไทย” นักท่องเที่ยวทุกคนที่เคยก้าวเท้าจากท่าเรือลงในเรือนำเที่ยว ล้วนเคยมาที่นี่กันทุกคน
- ถ้ำประกายเพชร หากล่องเรือต่อไปทางทิศใต้ประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ๆ จากเขาสามเกลอ ที่นี่คือ ถ้ำประกายเพชร ชื่อถ้ำมีที่มาจากการที่ผนังถ้ำจะมีประกายแสงที่สวยงาม เมื่อมีแสงมากระทบ ข้อดีของการมาเที่ยวที่นี่คือไม่ต้องเดินไกล เพราะเรือสามารถจอดได้ถึงปากถ้ำ รวมทั้งภายในถ้ำไม่ได้มีระยะทางไกล เดินเที่ยวชมได้สบาย ๆ
- ถ้ำปะการังและทะเลใน 500 ไร่ ถ้ำปะการังได้ชื่อมาจากการที่ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย มีความสวยงามดูคล้าย ๆ กับปะการังในทะเล การมาเที่ยวที่นี่จะได้กำไรจากการได้นั่งแพยนต์ชมทะเลใน 500 ไร่ด้วย แพยนต์ก็คือแพไม้ไผ่ที่ติดเครื่องยนต์ ซึ่งต่างจากเรือนำเที่ยวที่ให้บริการอยู่ด้านนอก การไปเที่ยวถ้ำปะการังต้องมีการเดินเท้าในป่าด้วย ระยะทางประมาณครึ่งกิโลเมตรกว่า ๆ ถือว่าไม่ไกล ไปเที่ยวได้กันทุกคน
- ถ้ำน้ำทะลุ เป็นถ้ำที่ถือว่าผจญภัยที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงพอสมควร การไปเที่ยวถ้ำน้ำทะลุนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจึงต้องมีเจ้าหน้าที่นำเที่ยวไปด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ในแต่ละปีจะมีช่วงที่เปิดให้เข้าไปชมถ้ำได้ และจะปิดการเข้าชมถ้ำในช่วงหน้าฝนของทุก ๆ ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว
- จุดชมวิวไกรสร หรือ วิวพอยท์ Viewpoint จุดชมวิวมุมสูงสุดในตัวเขื่อนที่ต้องเดินป่าขึ้นไป สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่างเก็บน้ำและผืนป่าของอุทยานแห่งชาติเขาสกได้อย่างชัดเจน เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวหนุ่มสาว หรือผู้ที่รักการเดินป่าแนวผจญภัยที่มีร่างกายแข็งแรง
- น้ำตกบางหอย เป็นน้ำตกขนาดเล็กและไม่สูงชัน แต่ดูสวยงามดี สามารถเล่นน้ำได้ อยู่ในโซนเดียวกับ Viewpoint ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที หากเดินทางจากแพคีรีวาริน
แพที่พักเขื่อนเชี่ยวหลาน
แพที่พักที่ตั้งอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำมีอยู่ประมาณ 20 แพ มีทั้งแพที่บริหารจัดการโดยอุทยานแห่งชาติเขาสกเองจำนวน 4 แพ แพเอกชนหรือแพที่ได้รับสัมปทานจากทางอุทยานฯ จำนวน 12 แพ แพของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จำนวน 2 แพ และแพของหน่วยงานอื่นอีก 1 แพ ข้อมูลรีวิวเบื้องต้นของแพต่าง ๆ มีดังนี้
แพอุทยานฯ บริการโดยอุทยานแห่งชาติเขาสก 4 แพ
- แพนางไพร เป็นแพที่นักท่องเที่ยวคุ้นชื่อกันมากที่สุด เป็นแพบริการหลักของอุทยานแห่งชาติเขาสกที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด ตัวแพตั้งอยู่ที่บริเวณศูนย์กลางแผนที่อ่างเก็บน้ำบริเวณอ่าวสมเด็จ นักท่องเที่ยวเกือบจะทุกคนที่เคยมาเที่ยวที่นี่มักจะเคยแวะไปที่แพนางไพร เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกับจุดไฮไลท์สำคัญในการท่องเที่ยว นั่นก็คือเขาสามเกลอ “กุ้ยหลินเมืองไทย” นอกจากนี้แล้วที่ยังเป็นที่ทำการของ “หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.3 (อ่าวสมเด็จ)” อีกด้วย
- แพคลองคะ เป็นแพดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในบรรดาแพอุทยานฯ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาพักค้างคืนเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากในทุก ๆ ปี ที่นี่มีวิวที่สวยงามในระดับต้น ๆ ทั้งเทือกเขาหินปูนด้านหลังและด้านข้าง และผืนน้ำที่กว้างใหญ่ด้านหน้าแพ รวมทั้งที่พักสไตล์ธรรมชาติตามแบบฉบับของแพอุทยาน แพคลองคะนั้นตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวคลองคะ และยังเป็นที่ทำการของ “ศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยวคลองคะ อุทยานแห่งชาติเขาสก” ด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ที่สุดห่างออกไปแค่ 1 กิโลเมตรกว่า ๆ คือ “ถ้ำประกายเพชร”
- แพโตนเตย เรียกได้ว่าเป็นแพที่อยู่ลึกที่สุดในบรรดาทั้ง 4 แพนี้ ตัวแพตั้งอยู่ลึกเข้าไปในบริเวณคลองแปะทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเขื่อน ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ที่นี่จึงเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยทำเลที่ตั้งของแพทำให้ที่นี่มีเหล่าสัตว์ป่านานาชนิดแวะเวียนกันมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอยู่เสมอ แพโตนเตยเป็นที่ทำการของ “หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส. 4 (คลองแปะ)” ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กันกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่ง นั่นก็คือ “ถ้ำน้ำทะลุ”
- แพไกรสร ในบรรดาทั้ง 4 แพนี้ แพไกรสรเป็นแพที่ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือท่องเที่ยวฯ มากที่สุด ด้วยระยะทางทางอากาศกว่า 25 กิโลเมตร ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของที่นี่ ทำให้ได้เห็นเหล่าสัตว์ป่านานาชนิดออกมาปรากฏตัวให้ได้ยลโฉมกันอยู่เสมอ ๆ แพไกรสรเป็นที่ทำการของ “หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.7 (ไกรสร)” สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับแพมากที่สุดคือ “จุดชมวิวไกรสร หรือ View point”
แพที่พักของเอกชนจำนวน 12 แพ
ที่พักในโซนคลองมุย
- แพภูตะวัน หนึ่งในแพเอกชนที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือท่องเที่ยวฯ มากที่สุด โดดเด่นด้วยลักษณะห้องพักแบบแพแคปซูลรูปร่างแปลกตา และแพเรือนไม้ห้องกระจก
- แพคีรีธารา ตั้งอยู่ห่างจากแพภูตะวันประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า ๆ มีห้องพักแบบชั้นครึ่งพัก คือมีห้องพักใต้หลังคา สามารถพักได้หลายคน เป็นแพที่เรียบหรู ดูเป็นผู้ใหญ่
- แพ Elephant Hills Rainforest Camp เป็นแพที่ไม่ค่อยมีคนไทยรู้จัก เพราะรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก
ที่พักในโซนคลองโหลง
- แพพันวารีย์ ตั้งอยู่บริเวณปากคลองโหลง ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแพมาตรฐานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว โด่ดเด่นด้วยบรรยากาศ Lake view ของผืนน้ำจืดเขียวมรกตด้านหน้าแพ และ Mountain view หรือทัศนียภาพของขุนเขาใหญ่ที่สูงชันตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังแพ
- แพเชี่ยวหลานทัวร์ หรือ แพเชี่ยวหลาน โดดเด่นด้วยทัศนียภาพความสวยงามของวิวทิวทัศน์ด้านหน้าแพในยามเช้าที่สวยงามเป็นอันดับต้น ๆ มาพร้อมห้องพักที่ใหญ่โตกว้างขวาง สามารถนอนพักได้หลายคน เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะเป็นอย่างมาก
- แพเพลินไพร เป็นเพียงแพเดียวในคลองโหลง ที่ตั้งอยู่กลางอ่าวโดยที่ไม่ติดกับภูเขาด้านหลังจนเกินไป ทำให้สามารถเห็นผืนน้ำที่กว้างขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังแพ มาพร้อมห้องพักแบบบ้านไม้น็อคดาวน์ทรงไทยและห้องพักแบบบ้านไม้เฌอร่า
- แพสายชล ด้วยห้องพักที่มากมายกว่า 30 หลัง ทั้งห้องพักแบบแพเรือนบ้านบังกะโลและแพเรือนไม้ทรงไทย ทำให้ที่นี่สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย รวมทั้งสามารถเลือกได้ว่าต้องการห้องน้ำรวมหรือห้องน้ำในตัวได้อีกด้วย
- แพไพรวัลย์ ตั้งอยู่ด้านในสุดของคลองโหลง การสร้างที่พักของที่นี่ อยู่บนพื้นฐานแนวคิดของการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ แต่มีพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างครบครัน นอกจากนี้แพไพรวัลย์ยังตั้งอยู่ใกล้ทะเลใน 500 ไร่ และถ้ำปะการังมากที่สุดอีกด้วย
ที่พักในโซนคลองหวาง
- แพสมายเลย์ (Smiley) ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของคลองหวาง โดดเด่นด้วยห้องพักหลังคาทรงไทยมากมายประมาณกว่า 30 หลัง ห้องพักของที่นี่ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว รวมทั้งยังมีราคาที่พักที่ค่อนข้างประหยัดด้วย
- แพภูผาวารี โดดเด่นด้วยแพสไตล์โมเดิร์น มีรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราทันสมัยถูกใจคนรุ่นใหม่ ห้องพักกลางผืนน้ำที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมอย่าง โทรทัศน์ พัดลม เครื่องปรับอากาศและสัญญาณโทรศัพท์
- แพคีรีวาริน มีห้องพักที่มีลักษณะเป็น 2 ชั้นหรือชั้นครึ่ง (คือมีห้องพักใต้หลังคาด้วย) สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึงแพละ 7-8 คน ลักษณะของการสร้างแพดูเรียบหรู แต่ตกแต่งให้ใกล้ชิดธรรมชาติที่สุด ที่นี่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ตลอดเวลาเพราะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าร์เซลล์
- แพ 500 ไร่ แพที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้น ๆ มีห้องพักที่จัดว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง มีทั้งห้องพักแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝดสำหรับครอบครัว รวมทั้งยังมีห้องสูทขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวคณะใหญ่ ๆ ได้ 8-10 คน อีกด้วย
แพที่พักของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จำนวน 2 แพ
- แพถ้ำเจียร์ ตั้งอยู่ที่ “หน่วยพิทักษ์ป่า (ชั่วคราว) ถ้ำเจียร์ ” ลึกขึ้นไปทางทิศเหนือของตัวเขื่อน มีห้องพักแบบแพไม้ไผ่ สโลว์ไลฟ์ ใกล้ชิดธรรมชาติที่สุด ที่นี่อยู่ในพื้นที่การดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกแต่อย่างใด
- แพคลองหยา นี่เป็นแพที่เรียกว่าไกลที่สุดของแพทุกประเภท ตั้งอยู่ด้านเหนือสุดของตัวเขื่อน บริเวณต้นแม่น้ำคลองแสง เกือบจะถึงเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระนองและพังงา การเลือกมาเที่ยวหรือพักผ่อนที่นี่เหมือนกับการหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว และเนื่องจากที่นี่เป็นต้นแม่น้ำ ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จึงมักจะเป็นนักตกปลาเป็นส่วนใหญ่
แพที่พักอื่น ๆ 1 แพ
- แพวังมัจฉา นี่คือแพที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือท่องเที่ยวมากที่สุดของแพทุกประเภทที่กล่าวมาข้างต้น ห่างจากท่าเรือประมาณ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้น และเป็นแพที่เกิดขึ้นมาหลังสุด มีห้องพักสไตล์โมเดิร์นที่สวยงาม ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนบนแพกลางน้ำ ที่ไม่อยากนั่งเรือไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 10 กว่านาทีก็ถึงที่พักแล้ว
การเดินทางเข้าไปยังเขื่อนเชี่ยวหลาน
การเดินทางเข้าไปในเขื่อน แต่เดิมมีเส้นทางหลักจากอำเภอพนม บริเวณด้านข้างวิทยาลัยเกษตรสุราษฎร์ฯ แต่เป็นเส้นทางที่มีความสลับซับซ้อน มีความลาดชันและโค้งจำนวนมากจึงได้ปิดตัวลง ในปัจจุบันสามารถเดินทางเข้าไปในตัวเขื่อนผ่านทางอำเภอบ้านตาขุน ที่สามแยกหน้าตลาดตรงข้ามโรงพยาบาลบ้านตาขุน
ก็จบกันไปสำหรับการแนะนำข้อมูลเบื้องต้นของ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา ทั้งประวัติของตัวเขื่อน ประโยชน์จากการสร้างเขื่อน สถานที่ท่องเที่ยวและข้อมูลแพที่พักแบบคร่าว ๆ ในบทความถัดไป เชี่ยวหลานแฮปปี้ทัวร์ จะมาแนะนำกันแบบเจาะลึกละเอียด ๆ กันต่อไป ขอบคุณครับ